วิธีปลูก

ตัวอย่างการปลูกดอกไม้เขตหนาว
1.ปักษาสวรรค์
วิธีการปลูก
ปักษาสวรรค์ของดินที่ระบายอากาศได้ดี แปลงปลูกควรกว้างประมาณ 1.20 เมตร มีส่วนผสมของดินร่วน ปุ๋ยคอกและแกลบ ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นจึงนำต้นกล้าลงปลูก ระยะห่าง 80x80 เซนติเมตร หลังจากปลูกแล้วควรพรางแสงด้วยตาข่ายพลาสติกที่มีความเข้มของแสงประมาณ 50% หลังจากตั้งตัวดีแล้วควรใช้ปุ๋ยน้ำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ในด้านโรคและแมลงนั้น ปักษาสวรรค์มีโรคแมลงรบกวนน้อยมาก เพราะเป็นไม้ตัดดอกที่มีใบใหญ่ ผิวเป็นมัน ใบหนาและแข็งแรง เท่าที่พบคือโรคโคนเน่าและแมลงกัดกินยอดที่ชอบดูดกินน้ำหวาน

2.ดาวเรือง

การปลูก
รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมีสูตรต่ำ ๆ เช่น 10-20-10 หรือ 15-15-15 หรือ 16-16-16 หรือใกล้เคียง หลุมละ 1 ช้อนชา เกลี่ยดินกลบเม็ดปุ๋ยเล็กน้อย เพียงเพื่อไม่ให้รากดาวเรืองสัมผัสกับปุ๋ยโดยตรง เพราะจะทำให้ใบไหม้อันเป็นเหตุให้ต้นเหี่ยวและตาย ถอดถุงออกก่อนปลูก ปลูกหลุมละ 1 ต้น กลบดินให้เสมอใบเลี้ยงหรือสูงกว่าใบเลี้ยงเล็กน้อย รดน้ำให้ชุ่ม ถ้าปลูกจากต้นกล้า ใน 1-2 วันแรก รดน้ำวันละ 2-3 ครั้ง เพื่อประคองไม่ให้ต้นเหี่ยว หลังจากรากงอกและต้นตั้งตัวได้แล้วตาความจำเป็น ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำเปียกดอกไม้จะดีที่สุด เพราะดอกดาวเรืองขณะบานจะอุ้มน้ำทำให้คอดอก หัก และดอกเน่าก่อนตัดขาย
3.ดอกหน้าวัว 
การปลูก
หน้าวัวจะเติบโตได้ดีในสภาพที่มีความชื้นสูงแสงรำไรและมีลมพัดผ่านไม่แรงนักสิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือปริมาณแสง แดดที่ต้นได้รับเพราะแสงแดดมากเกินไปจะทำให้ใบเหลือง สีดอกซีดและเป็นรอยไหม้ แต่ถ้าได้รับแสงน้อยเกินไปจะทำให้ใบมีสีเขียวเข็ม ออกดอกน้อย ปริมาณแสงที่เหมาะสมคือประมาณ 20 - 30 % จะทำให้ต้นออกดอกดก คุณภาพดอกดี วัสดุปลูก ที่นิยมใช้กันมากคือ อิฐมอญทุบ ถ่านกาบมะพร้าว ใบไม้ผุ กะลาปาล์มน้ำมัน การปลูกในกระถางส่วนผสมของดินใช้ดินร่วน 2 สวน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 สวน ทรายหยาบ 1 สวน

4.ดอกรักเร่
                         
วิธีปลูก
รักเร่ชอบขึ้นในที่กลางแจ้งแดดจัด แต่มีความชื้นพอเพียง ควรปลูกในดินที่ร่วนซุยและระบายน้ำได้ดี บางครั้งจำเป็นต้องหาวัสดุคลุมดินให้รักเร่ เช่น ฟาง ใบไม้แห้ง หรือเปลือกถั่ว เป็นต้น สำหรับการขยายพันธุ์รักเร่นั้น สามารถเพาะเมล็ด ปักชำกิ่ง ต่อกิ่ง หรือใช้ราก เมื่อต้นให้ดอกแล้วต้นจะแก่และโทรมไปในที่สุด โดยจะทิ้งรากที่เป็นหัวไว้ในดิน ให้ตัดต้นเหนือระดับดินประมาณ 3 นิ้ว เพราะส่วนของตาที่จะเจริญเป็นต้นใหม่จะอยู่บริเวณโคนต้น แล้วจึงขุดหัวขึ้นมาจากดิน



วิธีปลูก
สามารถขึ้นได้ดีในดินทุกชนิด แต่ที่เหมาะสมควรเป็นดินที่ระบายน้ำดี น้ำไม่ท่วมขัง ถ้าเป็นดินเหนียวควรใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกอัตรา 1 ตัน/ไร่ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของดิน
การเตรียมดินควรไถพรวนก่อนต้นฤดูฝน และหลังจากพรวนดินให้มีขนาดเล็กลงแล้ว ก็ใช้ไถยกร่องปลูกระยะระหว่างแถว 75 เซนติเมตร ระยะระหว่างต้น 30 เซนติเมตร

------------------------------------------------------------------------------------------------------------




ตัวอย่างการปลูกดอกไม้เขตร้อน

1.ปทุมมา

วิธีการปลูก
วัสดุปลูกที่ใช้ คือ ทราย : แกลบดิบ หรือขุยมะพร้าว : ถ่านแกลบ อัตรา 1:1:1 ผสมให้เข้ากัน หมักกองไว้กลางแสงแดด สูงประมาณ 20-30 ซม . ผสมน้ำให้ชุ่ม คลุมด้วยพลาสติกใสนาน 1 เดือน เพื่ออบฆ่าเชื้อโรคหลังจากนั้นจึงนำวัสดุปลูกใส่ลงในถุงพลาสติกสีดำขนาด 6x12 นิ้ว วางถุงปลูกบนแปลงที่ยกสูงจากพื้น 20-30 ซม . ปูพื้นแปลงด้วยแกลบดิบหรือคลุมพลาสติกใส หน้าแปลงควรมีความลาดเอียงเล็กน้อยเพื่อให้มีการระบายน้ำดีหลังจากนั้น ใช้หัวพันธุ์ขนาดใหญ่ 1 หัวที่มีตุ้มสะสมอาหาร 2-3 ตุ้ม ปลูกลงในถุงพลาสติก


2.บอนสี

วิธีการปลูก
บอนสีควรจะปลูกในที่ที่มีความชื้นและไม่มีแดดร้อนจัดและดินที่ใช้ปลูกควรจะเป็นดินร่วนและมีในดินมีอินทรียวัตถุผสมด้วยเช่นพวกซากใบไม้ที่ผุย่อยสลลายและควรใช้ปุ๋ยชีวภาพนั้นก็คือ ปุ๋ยคอกและไม่ควรเยอะเกินไปเพราะดินจะเค็มทำให้ดินเสื่อมและต้องรดน้ำทุกวันตอนเช้าและตอนเย็นและอย่านำกระถางไปตั้งในที่แดดร้อนจัดเพราะใบจะไหม้และต้นก็จะตาย


3.ทานตะวัน


ขั้นตอนการปลูก :1. เตรียมดิน โดยดายหญ้าให้เตียน หว่านปุ๋ยคอกอัตรา 1.5 ตัน/ไร่ แล้วไถปรับสภาพพื้นดิน
2. ยกร่องให้กว้าง 150 เซนติเมตร ระยะระหว่างร่อง 75 เซนติเมตร ขุดหลุมบนสันร่อง ระยะระหว่างหลุม 45 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยรองพื้น สูตร 16-20-0 หรือ 25-7-7 อัตรา 20-25 กิโลกรัม/ไร่
3. ใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 0.8 กิโลกรัม / ไร่ หยอดหลุมละ 2-3 เมล็ด กลบดินหนาประมาณ 3-5 เซนติเมตร ให้แน่นพอสมควร
4. ใช้ยาคุมหญ้าประเภทอลาคอร์เมตลาคอร์ อัตรา 300-400 ซีซี/ไร่ หรือ 7-8 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 18-20 ลิตร ฉีดพ่นหลังหยอดเมล็ด
5. หลังจากปลูกไปแล้ว 5 – 10 วัน ให้ตรวจดูการงอก และการปลูกซ่อม หลังจากนั้นอีก 5 – 8 วัน ถอนแยกให้เหลือ 1 ต้น/หลุม โดยเลือกถอนต้นที่มีขนาดเล็กหรือผิดปกติก่อน
6. เมื่ออายุ 25 – 30 วัน ให้พูนดินโคนต้นและกำจัดวัชพืช พร้อมทั้งใส่ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 อัตรา 15-20 กิโลกรัม/ไร่ ห่างจากโคนต้น 20เซนติเมตร (อย่าให้ถูกใบ) แล้วกลบปุ๋ย
7. ประมาณ 100 – 110 วัน กลีบประดับรอบดอกจะเริ่มเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีน้ำตาลให้เก็บเกี่ยวโดยการตัดทั้งดอกนำมาตากแดด ให้แห้ง 1 – 2 แดดก่อน แล้วกระเทาะเมล็ดโดยการนวดด้วยเครื่องนวดถั่วเหลืองหรือถั่วลิสง หรือใช้เครื่องสีข้าวฟ่างก็ได้แล้วแต่ความสะดวก (กรณีไม่มีอุปกรณ์และไม่ต้องการลงทุนเอง ก็สามารถจ้างเขาทำได้)
8. ทำความสะอาดเมล็ดให้ดี
เก็บไว้ในยุ้งฉางที่ป้องกันแดด กันฝนและแมลงศัตรูได้ ความชื้นที่จะเก็บเมล็ดไว้ควรมีไม่เกิน 10 %
การให้น้ำทานตะวันต้องการน้ำพอสมควรในช่วงระยะแรกของการเจริญเติบโต ถ้าปลูกปลายฤดูฝนอาจไม่จำเป็นต้องให้น้ำ แต่ถ้าปลูกในฤดูแล้งควรรดน้ำช่วงระยะ 1 เดือนแรก และระยะ 50 วัน (ช่วงมีดอก)



4.ตะบองเพชร

การปลูก
1.นำถ่านหยาบรองก้นกระถาง 1/3  แล้วใส่ต้นตะบองเพชร
3.นำกรวดโรยหน้า นำเครื่องปลูกกลบ
4.รดน้ำให้ชุ่ม จัดวางบนโต๊ะ



5.บานไม่รู้โรย

การปลูก
ควรปลูกไว้กลางแจ้งได้รับแสงแดดเต็มที่
1.เนื่องจากเป็นไม้ดอกที่ไม่ต้องการดินที่อุดมสมบูรณ์มากนัก ดังนั้น ดินที่ใช้ปลูกจะเป็นดินชนิดใดก็ได้ แต่ควรเติมปุ๋ยคอกหรือ ปุ๋ยผสมลงไปในดินก่อน
2.การรดน้ำนั้นทำตามความจำเป็น เนื่องจากบานไม่รู้โรยทนแล้งได้ดีกว่า แฉะ จึงไม่จำเป็นต้องรดน้ำทุกวันจนน้ำขัง จะทำให้เน่าตายได้